วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555

นำ้ผึ้งแสนแพง ...จากเทือกเขาหิมาลัย

หมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขาทาพรัง (Taprang) บ้านของนักเก็บน้ำผึ้ง ชาวเนปาล  การสัมผัสการเดินทางไปเยือนหน้าผาที่ผึ้งยักษ์อาศัยอยู่  พบผึ้งยักษ์ขนาดใหญ่เป็น 2 เท่าของ  ผึ้งยุโรปและความเชื่อเรื่องโชคลางของนักเก็บน้ำผึ้งชาวเนปาล ที่จะไม่เก็บน้ำผึ้งในวันพระจันทร์เต็มดวง


 วิธีการเก็บน้ำผึ้งแบบดั้งเดิมที่มีเพียงแค่บันไดเชือก ตะกร้าและเครื่องมือตัด ที่นักเก็บน้ำผึ้งชาวเนปาลไม่ได้สวมชุดป้องกันอะไรเลย...ภารกิจเสี่ยงตายและท้าทายในการปีนหน้าผาเพื่อขึ้นไปเก็บน้ำผึ้ง  โดยตัดส่วนสีเหลือง ซึ่งเป็นตัวอ่อนของผึ้งออก แล้วค่อยเก็บน้ำผึ้งได้ที่ส่วนบนของรัง จากนั้น   ต้องวางตำแหน่งตะกร้ารองน้ำผึ้งให้ได้พอดี




ภาพโดย Eric Valli ถ่ายตั้งแต่ปี 1987
รังผึ้งแห่งเทือกเขาหิมาลัย จะอยู่สูง 8,200 ถึง 13,500 ฟุต
น้ำผึ้งจากผึ้งหิมาลัยมี 3 ชนิด คือ spring honey, red honey, และ autumn honey
โดย red honey มีราคาแพงที่สุด
ชาว Gurung ได้ประกอบอาชีพการหาน้ำผึ้ง โดยน้ำผึ้งที่นี่แพงกว่าที่อื่นประมาณ 5 เท่า
อุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บนำ้ผึ้ง ไม้ เชือก ผ้าคลุม

 ที่มา :  http://bbs.chinadaily.com.cn/thread-752562-1-1.html

วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555

สุดยอดของแพงแห่งท้องทะเล...ทองลอย "floating gold"มาจากวาฬสเปิร์ม(วาฬหัวทุย) 
 เป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าพิศวงไม่น้อยครับ สำหรับของเสียจาก "วาฬ" (จริงๆ มันไม่ใช่ปลา มันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ดังนั้นขออนุญาตเรียกมันด้วยชื่อเฉยๆ อย่างที่ควรจะเป็น) จะกลายเป็นของหอมราคาแพงลิบโลก ราคากิโลกรัมจะเป็นหมื่นเป็นแสนไปได้ แต่จริงๆ แล้วมันเกิดขึ้นแล้ว แถมในหลายๆ ประเทศรวมทั้งในตำรายาแผนโบราณตำรับแผนไทยก็มีการใช้อำพันทะเลในการทำยาต่างๆ เหมือนกัน 

เราไปรู้จักของเสียสุดมหัศจรรย์ที่ว่านี่กันดีกว่าในภาพ 2 ชิ้น 500,000 ยูโร

Ambergris หรืออำพันทะเล หรือขี้วาฬ หรือในหลายๆ ชื่อที่คนในแต่ละท้องถิ่นเรียกขานอย่างแตกต่างกันนั้น ความจริงแล้วมันคือ "อึ" หรือ "อาเจียน" ของวาฬ (ขึ้นอยู่กับว่ามันจะออกมาทางไหน ใช้ได้ทั้งสองแบบ) มันเป็นสารที่ถูกขับถ่ายออกมาจาก "วาฬหัวทุย" โดยวาฬชนิดนี้กิน "ปลาหมึก"  เป็นอาหารหลัก ไขมันปลาหมึกที่ย่อยสลายไม่ได้จะถูกสะสมบริเวณลำไส้และถูกขับถ่ายออกหรือไม่ก็สำรอกออกมา
 
โดยเมื่อแรกที่ถูกขับจะมีกลิ่นเหม็น แต่เมื่อเวลาผ่านไปเป็นเดือนหรือเป็นปี ได้เกิดปฏิกิริยากับอากาศแสงแดด ระหว่างล่องลอยอยู่ในทะเล แต่ด้วยค่าความถ่วงจำเพาะที่มีน้อยกว่าน้ำทะเลจึงมีคุณสมบัติทางเคมีเปลี่ยนไป ทำให้มีลักษณะเป็นก้อนแข็งสีขาว น้ำตาล เทา หรือดำ ตามระยะเวลาในการทำปฏิกิริยา ละลายที่อุณหภูมิมากกว่า 62 องศาเซลเซียส แต่ด้วยอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส จะระเหยเป็นไอ 

ลักษณะพิเศษของมันหรือเกิดปฏิกิริยาเคมีจนหายเหม็นแล้ว  คือ มีกลิ่นหอมคล้ายสารจำพวกน้ำมันหอมระเหย ใช้เป็นวัตถุดิบในการสกัดหัวน้ำหอม หรือนำไปแต่งกลิ่นในอาหารหรือไวน์ เป็นที่ต้องการของตลาด จึงทำให้อำพันมีมูลค่าสูงมากถึงกิโลกรัมละหลายหมื่นบาทของเด็กคนนี้ 60,000 ดอลล่าร์ สหรัฐ

เรียกว่า Ambergris เป็น มาจากอาเจียนของวาฬหัวทุย(วาฬสเปิร์ม)
ชื่อไทย ขี้ปลาวาฬหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "อำพัน"
แล้วทำไมมันแพงละ มันใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอมครับ ใช้เป็นวัตถุดิบในการสกัดหัวน้ำหอม หรือนำไปแต่งกลิ่นในอาหารหรือไวน์ เป็นที่ต้องการของตลาด จึงทำให้Ambergrisมีมูลค่าสูงมากถึงกิโลกรัมละหลายหมื่นบาท นอกจากนี้ยังเป็นดัชนีชี้วัดถึงความอุดมสมบูรณ์ของชายฝั่งและท้องทะเลได้ด้วย
undefined
"อำพันทะเล" อึวาฬราคาสุดแพง ใช้สกัดทำนำ้หอม
ที่มา
http://www.dailymail.co.uk/news/article-526465/Rare-whale-vomit-net-dog-walkers-500-000.html
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=7133a33a702802b1